การติดตั้งรั้วไวร์เมช และข้อดีของรั้วไวร์เมช
รั้วไวร์เมช
รั้วไวร์เมชคือรั้วที่ผลิตจากเหล็กรีดเย็นที่เชื่อมติดเป็นตะแกรงเหล็ก แล้วชุบเคลือบด้วยสารกันสนิม เพื่อให้มีความสวยงามและทนทานต่อการสึกกร่อน รั้วไวร์เมชมีข้อดีในการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว และมีรูปแบบและขนาดที่หลากหลาย ใช้สำหรับรั้วบ้าน โรงจอดรถ ฟิลม์อาคาร บันไดไม้สำเร็จรูป เป็นต้น
รั้วไวร์เมชทนได้กับสภาพอากาศแบบใด?
รั้วไวร์เมชทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี โดยเฉพาะในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง เนื่องจากไวร์เมชจะไม่เกิดการสนิม และยังสามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการติดตั้ง
แต่ถ้าต้องการความสวยงามและทนทานต่อการสึกกร่อน ควรเลือกรั้วไวร์เมชที่ผ่านการชุบเคลือบด้วย Hot Dip Galvanized ตามมาตรฐาน ASTM.A123 ความหนาไม่น้อยกว่า 65 ไมครอน เพื่อป้องกันการสนิมของโลหะ
รั้ว PVC กับรั้วไวร์เมช ต่างกันอย่างไร
รั้ว PVC กับรั้วไวร์เมช มีความแตกต่างกันในด้านวัสดุและลักษณะการใช้งาน รั้ว PVC เป็นรั้วที่ผลิตจากพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศและสารเคมีได้ดี แต่มีราคาสูงกว่ารั้วไวร์เมช รั้ว PVC มักนิยมใช้ในงานบ้านและสวน เพราะมีความสวยงามและสะอาด
รั้วไวร์เมช เป็นรั้วที่ผลิตจากเหล็กรีดเย็นที่เชื่อมติดเป็นตะแกรงเหล็ก แล้วชุบเคลือบด้วยสารกันสนิม เป็นรั้วที่มีราคาถูกกว่ารั้ว PVC แต่มีความทนทานต่อสภาพอากาศน้อยกว่า รั้วไวร์เมช มักนิยมใช้ในงานรั้วสนามกีฬา รั้วถนน หรือรั้วโรงงานต่างๆ
ข้อเสียของการใช้รั้วไวร์เมชคืออะไร?
ข้อเสียของการใช้รั้วไวร์เมช คือ
- ไม่สามารถใช้ได้ในการป้องกันการเข้ามาของสัตว์ที่มีขนาดเล็ก เช่น กระรอก หนู แมลง ฯลฯ เนื่องจากรั้วไวร์เมชมีช่องว่างที่ใหญ่เกินไป
- ไม่สามารถทำงานในแนวดิ่งได้ เช่น ใช้เป็นรั้วบันได หรือรั้วระเบียง
- ขนส่งลำบากต้องใช้แรงงานในการขนส่ง เนื่องจากรั้วไวร์เมชมีขนาดใหญ่และหนัก
- ได้ความแข็งแรงที่ไม่มากเท่ารั้วที่ใช้เหล็กเส้น เพราะรั้วไวร์เมชไม่ได้ยึดกับตัวปูน
- ไม่มีความสวยงามและสะอาดเท่ารั้ว PVC หรือรั้วไม้
ข้อดีของการใช้รั้วไวร์เมช?
ข้อดีของการใช้รั้วไวร์เมช คือ
- ประหยัดเงินค่าใช้จ่าย เพราะตะแกรงไวร์เมชผลิตในปริมาณมาก ทำให้ลดต้นทุนในการผลิตได้
- ประหยัดเวลาในการติดตั้ง เพราะไม่ต้องผูกเหล็กแล้ว และสามารถใช้งานได้เลย
- เสริมความแข็งแรงให้กับพื้นคอนกรีต และป้องกันการแยกตัวหรือเกิดรอยร้าว
- หาซื้อได้สะดวก และง่ายแก่การซ่อมบำรุง
- ปรับแต่งรูปแบบของรั้วได้ตามความต้องการ
ขนาดของรั้วไวร์เมช
ขนาดของรั้วไวร์เมช ขึ้นอยู่กับวัสดุ ความหนา และระยะห่างของลวดที่ใช้ในการผลิต ทั่วไปแล้ว รั้วไวร์เมชมีขนาดลวดตั้งแต่ 3 มม. ถึง 12 มม. และมีระยะห่างตาห่างตั้งแต่ 10 ซม. ถึง 30 ซม. ความสูงและความกว้างของรั้วไวร์เมช ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ แต่มักจะมีความสูงตั้งแต่ 1 เมตร ถึง 2 เมตร และความกว้างตั้งแต่ 2.4 เมตร ถึง 3 เมตร
ทำไมถึงต้องใช้ Hot Dip Galvanized?
Hot Dip Galvanized คือกระบวนการชุบเหล็กในบ่อสังกะสีด้วยความร้อนเพื่อช่วยป้องกันการผุกร่อนของเหล็กที่เกิดจากสนิม การชุบ Hot Dip Galvanized มีข้อดีมากมาย เช่น
- ความคงทนทาน : การชุบสังกะสีด้วยวิธีชุบ Hot Dip Galvanization ช่วยเสริมความแข็งแรงของโลหะ และทำให้มันทนต่อการกัดกร่อนจากอากาศ, น้ำ, และสารเคมีได้ดีกว่าโลหะที่ไม่ได้รับการชุบสังกะสี
- ความยาวนาน : การชุบสังกะสีด้วยวิธีชุบ Hot Dip Galvanization ช่วยกันสนิมที่ปกคลุมผิวโลหะ ซึ่งสามารถเสริมอายุการใช้งานของโครงสร้างได้นานขึ้นโดยทั่วไป
- การบำรุงรักษาที่ง่าย : โลหะที่ได้รับการชุบสังกะสีด้วยวิธี ชุบ Hot-Dip Galvanization มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนอย่างมาก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- การใช้งานต่อเนื่อง : การชุบกัลวาไนซ์ หรือ ชุบ Hot-Dip Galvanization ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุจากการเสียหายของโครงสร้างในระยะยาว เช่นการพังทลายหรือชำรุดอื่นๆ
- มีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง : การชุบ Hot Dip Galvanization ช่วยป้องกันการเกิดความเสียหายจากสภาพอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
การชุบ Hot Dip Galvanized เป็นวิธีการที่นิยมใช้ในการผลิตรั้วไวร์เมช เพื่อให้รั้วมีความแข็งแรง ทนทาน และสวยงาม รั้วไวร์เมชสามารถติดตั้งได้ในทุกสถานที่ที่ต้องการกั้นอาณาเขต เช่น ที่อยู่อาศัย, โรงงานอุตสาหกรรม, อาคารสำนักงาน, สนามกีฬา, สวนสาธารณะ, โรงเรียน, สนามบิน, ฟาร์มสัตว์เลี้ยง, รั้วกันแนวถนน หรือสถานที่ราชการต่างๆ